Skip to content

กฎหมาย  PDPA กำลังทำให้คนไทยเครียด 

        กฎหมาย  PDPA  เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของการออกกฎหมายใหม่เรื่องของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งระบุว่าเป็นกฎหมาย  PDPA กันมาบ้างแล้วด้วยกฎหมายนี้จะเริ่มมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 เป็นต้นไปด้วยกฎหมายนี้หลักๆส่วนใหญ่แล้วจะมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการใช้กล้องไม่ว่าจะเป็นกล้องจากโทรศัพท์มือถือหรือแม้แต่กล้องถ่ายรูปรวมถึงกล้องวงจรปิดเป็นต้น 

         อย่างไรก็ตามคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องของรายละเอียดกฎหมาย PDPA มากนักรู้แต่ว่าถ้าหากว่ามีการถ่ายรูปในพื้นที่สาธารณะแล้วไปติดบุคคลอื่นแล้วนำภาพดังกล่าวนั้นไปแชร์ใน Social Media ถ้าหากคนในภาพนั้นจะมีการฟ้องร้องเจ้าของภาพก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

           นอกจากนี้การติดตั้งกล้องวงจรปิดก็มีการระบุตามกฎหมายว่าจะต้องมีการเขียนเอาไว้ว่าบริเวณดังกล่าวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดซึ่งทำให้ผู้คนนั้นต่างพากันหวาดกลัวการใช้งานกล้องกันเป็นอย่างมากโดยส่วนใหญ่มองว่าผู้คนเวลาเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็มักจะมีการถ่ายรูปถ่ายเซลฟี่กันอยู่แล้ว 

ดังนั้นส่วนใหญ่จึงมักมีภาพของบุคคลอื่นซึ่งมาท่องเที่ยวในสถานที่เดียวกันติดไปด้วยและเมื่อมีกฎหมาย PDPA นี้ออกมาก็ทำให้ผู้คนนั้นไม่กล้าที่จะถ่ายเซลฟี่รวมถึงกล้องวงจรปิดที่มีการติดไว้ในบ้านแต่มีการส่องกล้องแพน มาที่บริเวณหน้าบ้านเพื่อที่จะเอาไว้ตรวจสอบคนที่ผ่านไปผ่านมาต้องสงสัยว่าจะเป็นขโมยก็เกิดความลังเลใจว่าจะไม่สามารถติดกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวได้เพราะกลัวว่าจะผิดตามกฎหมาย PDPA นั่นเอง

            ล่าสุดหญิงสาวรายหนึ่งถึงแม้ว่ายังไม่มีผลบังคับใช้เกี่ยวกับกฎหมาย pdpa แต่เธอก็เริ่มหวาดกลัว กับกฎหมาย  PDPA  ส่งผลทำให้เธอนั้นพลาดในการถ่ายรูปหน้าคนร้าย   ซึ่งหญิงสาวรายนี้ชื่อว่านางสาววิภาพร ซึ่งระบุว่าเธอได้เช่าห้องเช่าแห่งหนึ่งอยูjในซอยทุ่งเจริญ  ตำบลมาบตาพุด  จังหวัดระยอง  สมัคร จีคลับ1688   ซึ่งซอยที่เธออยู่นั้นค่อนข้างลึกและมักจะมีโจรขโมยชุกชุมออกมาขโมยทรัพย์สินคนในซอยดังกล่าวอยู่เป็นประจำ  

        อย่างไรก็ตามนางสาววิภาพร เล่าว่าในคืนวันที่ 31เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ระหว่างที่เธอกำลังจะนอนนั้น ปรากฏว่าเธอเห็นว่ามีคนร้ายเข้ามาเพื่อจะทำการลักทรัพย์ โดยคนร้ายบุกเข้ามาช่วงเวลาประมาณ 01:00 น และเธอเห็นหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจนรวมถึงพ่อของเธอก็อยู่ในห้องขณะที่คนร้ายบุกเข้ามาด้วย  แต่นางสาววิภาพรไม่กล้าที่จะถ่ายภาพคนร้ายให้เห็นใบหน้าแบบชัดเจนเพราะกลัวผิดกฎหมาย PDPA จึงทำเพียงแค่ถ่ายรูปขา และถ่ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ที่คนร้ายขี่มาเท่านั้น 

         อย่างไรก็ตามก่อนที่ประชาชนจะหวาดกลัวกับการเซลฟี่ไปมากกว่านี้ทางหน่วยงานที่ออกกฎหมายนี้ควรจะต้องออกมาชี้แจงเกี่ยวกับข้อบังคับว่า พรบ. คุ้มครองส่วนบุคคลนั้นมีลักษณะครอบครัวคุมการใช้งานแบบใดบ้างเพื่อให้ประชาชนเข้าใจการใช้กฎหมาย PDPA ได้อย่างถูกต้อง