Skip to content

จับภิกษุณีเก๊ หลอกชาวบ้าน  ทำบุญมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท 

     จับภิกษุณีเก๊ หลอกชาวบ้าน    เมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายน ปีพศ 2564    เจ้าหน้า ตำรวจของสถานีตำรวจจังหวัดนครพนมได้มีการออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการเข้าจับกุมหญิงสาวรายหนึ่งชื่อว่า นางสาวอิสรีย์ อายุ 49 ปี  โดยสาเหตุที่บุกเข้าไปจากกลุ่มหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเนื่องจากว่าเธอนั้นแอบอ้างตนเองเป็นผู้วิเศษ

หลอกชาวบ้านว่าตนเองนั้นเป็นพระภิกษุณี  และได้มีการอาศัยอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านบ้านดงโชคโดยสำนักปฏิบัติธรรมนั้นมีชื่อว่าวิปัสสนาพุทธสิกขี  

          ส่วนสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปทำการจับกุมนั่นก็เพราะว่ามีชาวบ้านเข้าไปร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีกับพระภิกษุณีเก๊คนนี้หลายคนโดยมีการแจ้งความว่านางสาวอิสรีย์นี้แอบอ้างตนเองว่าเป็นคนพิเศษเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ไปปฏิบัติธรรมอยู่สำนักธรรมแห่งนี้และได้มีการหลอกให้ชาวบ้านที่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวให้ช่วยกันระดมกำลังช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

           โดยพระภิกษุณีองค์ดังกล่าวนั้นได้มีการชวนชาวบ้านทำการก่อตั้งกองผ้าป่าขึ้นมาโดยกองผ้าป่านี้จะคิดเป็นกล่องละ 3,500 บาทและถ้าหากใครที่ทำบุญในครั้งนี้จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นทองรูปพรรณหรือไม่ก็เป็นเงินสดทำให้ชาวบ้านนั้นต่างหลงเชื่อกันเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่าในช่วงแรกนั้นที่มีการก่อตั้งกองผ้าป่าชาวบ้านที่มีการนำเงินไปช่วยเหลือทำบุญผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  จำนวนเงิน  3,500 บาทเขาได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นทองรูปพรรณ 1 สลึง

     ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้วจะเห็นได้ว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุนทำให้ชาวบ้านพากันหลงเชื่อเป็นจำนวนมากโดยนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีการก่อตั้งกองผ้าป่าจนเวลาผ่านไป 2-3 เดือนมีผู้ร่วมทำบุญเพื่อหวังที่จะได้กำไร จากการทำบุญในครั้งนี้มากกว่า  400 คนเลยทีเดียว   และเมื่อมีการนำยอดรวมกันแล้วพบว่ามีผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ไปทำบุญในครั้งนี้มากกว่า สิบล้านบาทเลย 

       หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านจึงได้มีการขออำนาจศาลนำเอกสารเข้าไปทำการแสดงเพื่อจับกุมนางสาวอิสรีย์ซึ่งระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการในการต้มตุ๋นชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนั้นมีชื่อเล่นว่าพระถึง  ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการเชิญตัวไปที่สำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัดเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมซึ่งถ้าหากปฏิบัติผิดจริงก็จะมีการจับสึกและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.    gclub slot เล่นผ่านเว็บ